การยกของหนักเป็นกิจกรรมที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ทั้งในที่ทำงานและชีวิตประจำวัน หากยกผิดวิธีอาจเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ เช่น กล้ามเนื้อหลัง ข้อเข่า หรือเอ็นกล้ามเนื้อ การเรียนรู้เทคนิคที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งจำเป็นในการป้องกันการบาดเจ็บ ลดความเสี่ยง และรักษาสุขภาพในระยะยาว โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมการทำงาน เช่น โรงงาน ที่ต้องยกของหนักเป็นประจำ การปฏิบัติตามวิธีที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการทำงาน
หลักการยกของหนักที่ถูกวิธี
เทคนิคยกของหนักอย่างปลอดภัย ควรเริ่มต้นจากการใช้กล้ามเนื้อขาและท่าทางที่ถูกหลักการ โดยไม่ควรยกของโดยใช้กล้ามเนื้อหลังเป็นหลัก ให้ใช้กล้ามเนื้อขาในการยกของ เนื่องจากกล้ามเนื้อขาเป็นกล้ามเนื้อที่แข็งแรงที่สุดในร่างกาย และสามารถรองรับน้ำหนักได้ดี ซึ่งจะช่วยลดการบาดเจ็บที่หลังได้
การยกของที่ถูกต้องมีหลักการดังนี้
- ย่อตัวลง: ก่อนที่เราจะยกของ เราควรย่อตัวลงให้เข่าของเราหมดการยืดตรง โดยให้ท่านั่งลงเหมือนกับการนั่งเก้าอี้ โดยให้ขาของเราก้มลงเล็กน้อยเพื่อให้มั่นใจว่าเราใช้กล้ามเนื้อขาในการยก ไม่ใช้หลัง
- ใช้มือทั้งสองข้างในการยก: เมื่อย่อตัวลงแล้ว ควรใช้มือทั้งสองข้างจับของที่ยกให้อยู่ในระดับที่สะดวก การจับของด้วยมือทั้งสองจะช่วยกระจายแรงออกไปทั่วร่างกายและลดการเคลื่อนไหวที่เกินความจำเป็น
- ยกด้วยขา: เมื่อจับของแล้ว ให้นำแรงจากขาในการยืนขึ้น แทนที่จะยกด้วยหลังที่อาจทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ
- รักษาท่าทางตรง: เมื่อยกของขึ้นมาจากพื้น ควรรักษาหลังให้ตรงและไม่โน้มไปข้างหน้า การโน้มตัวไปข้างหน้าจะทำให้กระดูกสันหลังได้รับแรงกดทับที่ไม่จำเป็น
- ไม่หมุนลำตัว: เมื่อยกของไม่ควรหมุนลำตัวหรือเคลื่อนไหวตัวมากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังหรือข้อ
น้ำหนักที่คนหนึ่งคนสามารถยกได้อย่างปลอดภัย
ในการยกของหนัก ควรมีการประเมินน้ำหนักที่คนหนึ่งคนสามารถยกได้อย่างปลอดภัยถือเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากการยกของเกินขีดจำกัดของร่างกายจะทำให้เกิดอันตรายต่อกล้ามเนื้อและกระดูกได้ ตามที่แนะนำโดยสมาคมความปลอดภัยในการทำงานหลายแห่ง (National Safety Council, 2020) มีคำแนะนำในการกำหนดน้ำหนักที่สามารถยกได้ตามลักษณะของบุคคล ดังนี้
- ผู้ชายทั่วไป: สำหรับผู้ชายทั่วไปที่มีสุขภาพดี การยกของที่มีน้ำหนักประมาณ 25-30 กิโลกรัม / 1 คนสามารถทำได้อย่างปลอดภัยเมื่อใช้ท่าทางและวิธีการที่ถูกต้อง
- ผู้หญิงทั่วไป: ผู้หญิงที่มีสุขภาพดีควรยกของที่มีน้ำหนักไม่เกิน 15-20 กิโลกรัม / 1 คน หากจำเป็นต้องยกของหนักกว่า 20 กิโลกรัม ควรมีการใช้เครื่องมือช่วยในการยก เช่น รถยกหรือลิฟต์ยกของ
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ: สำหรับบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น ปัญหาที่หลังหรือข้อเข่า ควรหลีกเลี่ยงการยกของหนักและใช้เครื่องมือช่วยในการยกเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บที่รุนแรง
การคำนึงถึงขีดจำกัดของร่างกายเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยไม่ควรพยายามยกของหนักเกินไปโดยไม่ใช้ท่าทางที่ถูกต้อง
ในส่วนของการตั้งมาตรฐานในการทำงาน จป.บริหาร (เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยระดับบริหาร) เองก็มีส่วนในดูแลมาตรการความปลอดภัยขององค์กรให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปฏิบัติงาน หลักเกณฑ์ที่พนักงานควรทำถึงขีดกำจัดเท่าไหร่ และหากยกไม่ได้ควรมีการสนับสนุนอุปกรณ์ที่จะเข้ามาช่วยเหลือ อย่าง รถยก เป็นต้น
สำหรับสถานประกอบการที่จัดอยู่ในประเภทงานตามกฎกระทรวง 2565 กำหนดกว่า 64 ประเภท จำเป็นต้องมี จป บริหาร นั้นระดับผู้บริหารทุกคนขององค์กรต้องเข้าร่วมอบรม จป บริหาร และนำใบเซอร์ที่ได้จากการอบรมไปขึ้นทะเบียนเป็น จป บริหาร ให้ถูกต้องตามกฎหมาย
เลือกใช้เครื่องมือช่วยในการยกของหนัก
ในบางกรณีที่จำเป็นต้องยกของหนักหรือขนาดใหญ่ การใช้เครื่องมือช่วยในการยกของเป็นทางเลือกที่ดีในการป้องกันการบาดเจ็บ การใช้เครื่องมือช่วยไม่เพียงแค่ช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น รถยก, เครื่องยกของ, หรือสายรัดต่างๆ
เครื่องมือที่สามารถใช้ในการยกของหนัก
- รถยก (Forklift): เป็นเครื่องมือที่นิยมใช้ในโรงงาน หรือคลังสินค้าที่ต้องยกของหนักและใหญ่ เช่น พาเลทสินค้า การใช้รถยกช่วยให้สามารถยกของที่มีน้ำหนักมากได้โดยไม่ต้องใช้แรงจากร่างกาย ผู้ใช้งานจำเป็นต้องผ่านการอบรมรถยก ตามประเภทที่ต้องใช้งาน
- เครื่องยกของด้วยมือ (Hand truck): เครื่องมือที่เหมาะสำหรับการยกของขนาดกลางที่ไม่สามารถยกได้ด้วยมือเปล่า เช่น กล่องหรือสินค้าขนาดเล็ก
- สายรัด (Straps): ใช้เพื่อช่วยยกของหนักที่ไม่สามารถยกได้ด้วยมือหรือเครื่องมือทั่วไป เช่น เฟอร์นิเจอร์หรืออุปกรณ์ขนาดใหญ่ สายรัดจะช่วยกระจายน้ำหนักและป้องกันไม่ให้เกิดการเคลื่อนไหวที่อาจทำให้เกิดอันตราย
- แพลตฟอร์มยก (Lifting platform): ใช้ในกรณีที่ต้องยกของหนักที่มีขนาดใหญ่และต้องการการควบคุมที่แม่นยำ เครื่องมือเหล่านี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บที่เกิดจากการยกของหนัก
- เครน (Crane) : เป็นอุปกรณ์สำคัญในการช่วยยกของหนักในงานอุตสาหกรรมและก่อสร้าง ด้วยความสามารถในการยกสิ่งของที่มีน้ำหนักมากและเคลื่อนย้ายไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย ผู้ใช้งานจำเป็นต้องผ่านการอบรมเครน ตามประเภทที่ต้องใช้งาน
*** สำหรับผู้ใช้งาน รถยก และ เครน ต้องผ่านการอบรมก่อนเริ่มปฏิบัติงาน
สรุป
การยกของหนักเป็นกิจกรรมที่ต้องให้ความสำคัญในการทำอย่างถูกวิธี การยกของที่ถูกต้องไม่เพียงแต่ช่วยลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ แต่ยังช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น การใช้ท่าทางที่ถูกต้องในการยกของและการประเมินน้ำหนักที่สามารถยกได้อย่างปลอดภัยเป็นปัจจัยที่ช่วยลดการบาดเจ็บที่เกิดจากการยกของหนัก นอกจากนี้ การใช้เครื่องมือช่วยในการยกของยังเป็นทางเลือกที่ดีในการเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการทำงาน
การอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการยกของหนักอย่างถูกวิธีในที่ทำงานจึงเป็น เพื่อส่งเสริมความปลอดภัยและสุขภาพของพนักงาน และป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการยกของที่ไม่เหมาะสม
แหล่งอ้างอิง
- National Safety Council. (2020). Ergonomics: A Guide to Safe Lifting. Retrieved from https://www.nsc.org
- Occupational Safety and Health Administration (OSHA). (2019). Safe Lifting Practices for Workers. U.S. Department of Labor. Retrieved from https://www.osha.gov