ไฟไหม้เป็นหนึ่งในภัยพิบัติที่ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินอย่างมหาศาล แม้จะมีมาตรการป้องกันไฟไหม้หลายประการ แต่การใช้วัสดุกันไฟก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงและผลกระทบจากไฟไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วันนี้ผมจะพามาดูวัสดุกันไฟยุคใหม่ที่ได้มีบทบาทในการป้องกันไฟไหม้มากยิ่งขึ้น โดยอธิบายถึงคุณสมบัติ ประเภท และการใช้งานของวัสดุเหล่านี้ในอาคารและสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ
ความสำคัญของวัสดุกันไฟ ในยุคปัจจุบัน
ตามรายงานของ National Fire Protection Association (NFPA) การใช้วัสดุกันไฟที่ได้มาตรฐานสามารถลดอัตราการเสียชีวิตและความเสียหายทางเศรษฐกิจได้อย่างมาก (NFPA, 2022)
ประเภทของวัสดุกันไฟยุคใหม่
1, วัสดุกันไฟเชิงโครงสร้าง (Structural Fireproofing Materials)
วัสดุกลุ่มนี้ใช้ในการเคลือบหรือห่อหุ้มโครงสร้างอาคาร เช่น คอนกรีต เหล็ก หรือไม้ เพื่อเพิ่มความทนทานต่อไฟ ตัวอย่างวัสดุกันไฟเชิงโครงสร้างได้แก่:
- ฉนวนกันไฟ (Fire-resistant Insulation) เช่น ฉนวนใยหิน (Rock Wool) และฉนวนใยแก้ว (Fiberglass) ที่มีคุณสมบัติทนความร้อนสูงและไม่ติดไฟง่าย
- สีพ่นกันไฟ (Intumescent Coating) สีชนิดนี้จะขยายตัวเมื่อสัมผัสความร้อน ทำให้สร้างชั้นกันไฟปกป้องโครงสร้างจากความร้อน
2. วัสดุกันไฟเชิงสถาปัตยกรรม (Architectural Fireproofing Materials)
วัสดุกลุ่มนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการตกแต่งภายในและภายนอกอาคาร ตัวอย่างเช่น:
- แผ่นยิปซัมกันไฟ (Fire-rated Gypsum Board) ใช้ในการก่อผนังหรือฝ้าเพดานที่ต้องการความทนไฟ
- กระจกกันไฟ (Fire-resistant Glass) กระจกชนิดนี้สามารถทนความร้อนได้สูงและไม่แตกง่ายเมื่อเจอไฟ
3. วัสดุป้องกันการลามไฟ (Flame-retardant Materials)
วัสดุกลุ่มนี้มีคุณสมบัติเฉพาะในการลดหรือชะลอการลุกลามของเปลวไฟ เช่น:
- ผ้ากันไฟ (Fire-retardant Fabrics) ใช้ในการทำม่านหรือเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการความปลอดภัยสูง
- โฟมกันไฟ (Fire-retardant Foam) ใช้ในการกันเสียงหรือเป็นฉนวนกันความร้อนในอาคาร
คุณสมบัติเด่นของวัสดุกันไฟยุคใหม่
วัสดุกันไฟยุคใหม่ถูกออกแบบมาให้มีคุณสมบัติ ที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านความปลอดภัยและการใช้งาน ดังนี้:
1. ความทนทานต่อความร้อนสูง
วัสดุกันไฟสามารถทนความร้อนได้ตั้งแต่ 500 ถึง 1,200 องศาเซลเซียส ขึ้นอยู่กับประเภทของวัสดุ เช่น ฉนวนใยหินสามารถทนความร้อนได้สูงถึง 1,000 องศาเซลเซียส
2. ไม่เกิดควันหรือก๊าซพิษ
วัสดุบางชนิดเมื่อเผาไหม้จะไม่ปล่อยควันหรือก๊าซพิษที่เป็นอันตรายต่อชีวิต เช่น แผ่นยิปซัมกันไฟที่ไม่ปล่อยสารพิษเมื่อเผาไหม้ (UL Environment, 2021)
3. มีความสามารถในการชะลอการลุกลามของไฟ
วัสดุกันไฟหลายชนิดมีคุณสมบัติในการชะลอการลุกลามของไฟ เช่น สีพ่นกันไฟที่สามารถขยายตัวเป็นชั้นหนาเพื่อลดการส่งผ่านความร้อน
4. ความยืดหยุ่นในการใช้งาน
วัสดุกันไฟยุคใหม่ถูกออกแบบให้สามารถปรับใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการก่อสร้างอาคารสูง โรงงานอุตสาหกรรม หรือบ้านพักอาศัย
การนำมาใช้งานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
1. อาคารสำนักงานและที่อยู่อาศัย
การใช้แผ่นยิปซัมกันไฟสำหรับผนังและฝ้าเพดาน รวมถึงการติดตั้งฉนวนใยหินในโครงสร้างหลัก ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในกรณีเกิดไฟไหม้
2. โรงงานอุตสาหกรรม
การใช้วัสดุกันไฟเช่น สีพ่นกันไฟสำหรับโครงสร้างเหล็ก หรือโฟมกันไฟในระบบท่อ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเพลิงไหม้ในพื้นที่ที่มีการจัดเก็บสารเคมี
3. อาคารสาธารณะและสถานที่สำคัญ
สถานที่สาธารณะ เช่น โรงพยาบาล โรงเรียน หรือสนามบิน ใช้วัสดุกันไฟเพื่อป้องกันการลุกลามของไฟและเพิ่มเวลาในการอพยพผู้คนออกจากพื้นที่
เทคโนโลยีใหม่ในวัสดุกันไฟ 2025
1. นาโนเทคโนโลยีในวัสดุกันไฟ
การนำอนุภาคนาโนมาใช้ในวัสดุกันไฟช่วยเพิ่มความสามารถในการทนความร้อนและลดการลุกลามของไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น สีพ่นกันไฟที่ใช้เทคโนโลยีนาโนในการเสริมความแข็งแรง (Journal of Nanotechnology, 2020)
2. วัสดุผสมขั้นสูง (Advanced Composite Materials)
วัสดุผสมที่มีส่วนประกอบของใยแก้วหรือคาร์บอนไฟเบอร์ถูกนำมาใช้ในการสร้างวัสดุกันไฟที่มีน้ำหนักเบาแต่ทนทานสูง เหมาะสำหรับการใช้งานในอาคารที่ต้องการลดน้ำหนักโครงสร้าง
3. วัสดุกันไฟที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
วัสดุกันไฟที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลหรือวัสดุธรรมชาติ เช่น ฉนวนใยไม้ (Wood Fiber Insulation) ที่ไม่เพียงแต่ทนไฟได้ดี แต่ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
วัสดุกันไฟสมัยใหม่ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดไฟไหม้ แต่ความปลอดภัยที่แท้จริงต้องเริ่มจากความรู้ การอบรมดับเพลิงจึงเป็นกุญแจสำคัญที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม
สำหรับพนักงานในโรงงาน มีข้อกำหนดทางกฎหมายว่า นายจ้างต้องจัดให้ลูกจ้างไม่น้อยกว่า 40% ขององค์กรเข้าอบรมดับเพลิงขั้นต้น เพื่อให้มีทักษะการรับมือเมื่อเกิดเหตุไฟไหม้ ได้ทันที เราของแนะนำอบรมดับเพลิงที่ เซฟตี้เมมเบอร์ พร้อมจัดอบรมดับเพลิงทั่วประเทศ
- อุปกรณ์พร้อมฝึก
- วิทยากรขึ้นทะเบียนเป็นผู้สอนตามกฎหมาย
- มอบวุฒิบัตรหลังผ่านอบรม
- พร้อมเดินทางจัดสอนแบบอินเฮ้าส์ ทั่วประเทศ
รายละเอียด : อบรมดับเพลิงขั้นต้น โรงงาน
ติดต่อสอบถาม : [email protected] / โทร 064 958 7451
มาตรฐานและการรับรองวัสดุกันไฟ
- มาตรฐาน UL (Underwriters Laboratories) ซึ่งเป็นมาตรฐานการทดสอบวัสดุกันไฟที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก
- มาตรฐาน ASTM (American Society for Testing and Materials) ที่กำหนดวิธีการทดสอบวัสดุต่าง ๆ รวมถึงวัสดุกันไฟ
- มาตรฐาน มอก. (มาตรฐานอุตสาหกรรมไทย) สำหรับวัสดุกันไฟที่ใช้ในประเทศไทย
การเลือกใช้วัสดุกันไฟที่ผ่านการรับรองตามมาตรฐานเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในคุณภาพและประสิทธิภาพของวัสดุ
สรุป
- National Fire Protection Association (NFPA). (2022). Fire Prevention and Safety Standards.
- UL Environment. (2021). Fire-resistant Building Materials.
- Journal of Nanotechnology. (2020). “Advancements in Nanotechnology for Fireproofing Materials.”
- ASTM International. (2022). Fire Testing Standards.
- มาตรฐานอุตสาหกรรมไทย (มอก.). (2023). วัสดุกันไฟและการทดสอบความปลอดภัย.
บทความที่น่าสนใจ
- ISO 9001: มาตรฐานระบบบริหารคุณภาพ
- รู้จักกับมาตรฐาน ความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทํางาน
- ผลกระทบภาวะ PTSD ต่อนักดับเพลิง ภัยเงียบที่ต้องได้รับการดูแล
- เทคนิคการเข้าควบคุมเพลิง ในสถานการณ์ต่างๆ